ก้าวแรกของชีวิตใหม่ หลังเฉียดความตาย ยากกว่าฝึกเด็กเดินเตาะแตะซะอีก

อัมพาตครึ่งซีก ความหมายก็ตรงตัวเลยนะคะ ครึ่งซีกของร่างกายจะอ่อนแรง 
เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงของการทำกายภาพบำบัดสำหรับญาติมากค่ะ
ตอนนี้นักกายภาพบำบัดยังไม่ได้อนุญาตให้คนไข้ลุกขึ้นเองนะคะ 
เพราะเสี่ยงต่อการล้ม (ซึ่งคนไข้อัมพาตครึ่งซีกเวลาล้มจะล้มแรงมาก 
เพราะเค้าจะไม่สามารถทรงตัวได้เหมือนคนปกติ กลัวศีรษะกระแทกค่ะ)
ชีวิตถ้าลงจากเตียงไปอาบน้ำหรือทำกิจกรรมบำบัดก็คืออยู่บนรถเข็นค่ะ
แล้วที่บอกว่าเดินได้นี่ไม่ใช่เดินตัวปลิวนะคะ กว่าจะได้แต่ละก้าว คนลุ้นเหนื่อยอ่ะค่ะ



ส่วนคนไข้ก็อยากจะเดินมาก วัยกำลังหนุ่มด้วย พยายามจะลุกมายืนเองหลายรอบเลย
จนเราต้องร้องไห้ขอร้องว่าอย่าลุกเอง เดี๋ยวล้มหัวฟาดจะหนักกว่าเก่า


อยู่ที่รพ. ทำกายภาพบำบัดครั้งละประมาณสองชั่วโมงนะคะ บางครั้งคนไข้จะหงุดหงิดมาก
ที่ไม่สามารถทำอะไรอย่างที่ใจต้องการได้ เช่น แฟนเรามือข้างขวาไม่สามารถกระดิกได้เลย
ก็จะหงุดหงิดมากเวลาที่อยากหยิบจับอะไร เพราะเค้าไม่ถนัดด้านซ้าย 


เริ่มเข้าสู่อาทิตย์ที่สามของการทำกายภาพบำบัด เริ่มใช้ไม้เท้าสามขาแล้วค่ะ
แต่ก็ยังต้องจับขอบเอวกางเกงอย่างใกล้ชิดนะคะ เผื่อเค้าหมดแรงดื้อๆ จะได้ไม่ล้ม
หลายท่านอ่านแล้วอาจรู้สึกว่าก็ทำกายภาพไม่นานนะกว่าจะเดินได้


อยากบอกว่า สำหรับเรา ความรู้สึกนี้ยาวนานมากค่ะ เพราะการที่บอกว่าคนไข้เริ่มเดินได้
แต่เป็นการเดินได้ที่เรียกว่า คนไข้เดิน 10 ก้าว ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงอ่ะค่ะ 
แล้วท่าเดินก็จะไม่เหมือนคนปกติ (แต่ก็ยังดีที่เรายังมีหวังว่าเค้าจะกลับมาปกติได้)


อยากชมเชยเจ้าหน้าที่ที่รพ. นี้ทุกท่านเลย ตั้งแต่เวรเปล หมอ จนท.หอผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทุกคน
พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล แม่บ้าน ทุกคนคอยให้กำลังใจเราตลอด ดูแลเหมือนญาติจริงๆ
ทั้งๆ ที่เราก็ใช้ิสิทธิบัตรทองเท่านั้น 


เกือบครบเดือนแล้วค่ะที่มารักษาตัวกับรพ.ที่สอง บล็อกหน้าจะพาคนไข้กลับบ้านกันค่ะ
เหมือนจะดีใจใช่มั๊ยคะ แต่เศร้าระบมค่ะ อย่าลืมติดตามนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น