นั่นคือการนำผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้ส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
อาการที่ว่านี้คือ
ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายบางส่วนได้
- พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว บางรายที่เป็นมากไม่สามารถพูดได้เลย (แฟนดิฉันเป็นชนิดที่ไม่สามารถพูดได้เลยแม้แต่คำเดียว ไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกมาได้เลย)
- ไม่สามารถกลืนอาหารและน้ำลายได้
- ปวดหัวมากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (หากคนใกล้ชิดมีอาการปวดหัวมากให้รีบไปพบแพทย์หากเป็นไปได้ กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะอาจเป็นอาการของเส้นเลือดในสมองแตกได้)
หากท่านใดพบคนใกล้ชิดมีอาการดังกล่าวให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
แนะนำเพิ่มเติม
หากคนไข้มีโรคประจำตัวและมีประวัติการรักษาประจำอยู่ที่โรงพยาบาลใด ให้นำตัวส่งโรงพยาบาลนั้น
จะดีที่สุด แต่หากเป็นเคสฉุกเฉินให้นำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก่อนเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาเบื้องต้น
หลังจากนั้นจึงค่อยประสานเรื่องการส่งต่อผู้ป่วยต่อไป
ให้พึงระลึกเสมอว่า ยิ่งผู้ป่วยถึงมือแพทย์เร็วเท่าไหร่ ผลการรักษาก็จะดีขึ้นและลดความพิการได้มากเท่าันั้น บางรายอาจหายขาดได้เลย
โดยเฉพาะภายใน 3 ชั่วโมงหลังมีอาการหากผู้ป่วยถึงมือแพทย์ พยากรณ์ของโรคจะดีกว่าผู้ป่วย
ที่ถูกละเลยจากการนำตัวส่งโรงพยาบาล
ที่ดิฉันกล่าวไว้ดังนี้เนื่องจาก ดิฉันวนเวียนพาแฟนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกือบสองปีเต็ม
ครั้งหนึ่งได้เห็นคนไข้ชายอายุประมาณ 50 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการอ่อนแรงซีกขวา
พูดไม่ได้เลย มีน้ำลายไหลตลอดเวลา ปากเบี้ยว ซึ่งเป็นอาการเดียวกับแฟนของดิฉัน
คนไข้มาถึงโรงพยาบาลเวลาเที่ยงกว่าดิฉันจำได้ดี เพราะดิฉันรับยาให้แฟนและกำลังจะกลับบ้าน
เจ้าหน้าที่ที่หน้าห้องฉุกเฉินก็ซักอาการ ญาติเค้าแจ้งว่า อาการคนไข้พูดไม่ได้ตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้ว
แต่คิดว่าจะหายเองได้ เลยเพิ่งนำตัวส่งโรงพยาบาล ญาติเลยโดนเจ้าหน้าที่ดุไปว่าทำไมถึงชะล่าใจ
ถ้ามาช้ากว่านี้คนไข้อาจเสียชีวิตได้ เพราะสมองก็จะเสียหายไปเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้นหากพบเห็นผู้ใดมีอาการแบบนี้อย่าชะล่าใจนะคะ เสียเวลาไปพบแพทย์ดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลังนะคะ
หมายเหตุ ในบล็อกต่อๆ ไปจะเริ่มสาธยายตั้งแต่แฟนขึ้นรถโรงพยาบาลจนถึงห้องฉุกเฉินต่อด้วยห้องไอซียูอย่างละเอียด โปรดติดตามนะคะ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น